อุบลราชธานีมีทั้งแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ วัฒนธรรม และวิถีชีวิตที่งดงามครบถ้วน เรามาเจาะลึกสถานที่แต่ละแห่งพร้อมรายละเอียด ที่ตั้ง วิธีการเดินทาง และค่าเข้า ช่วยให้คุณวางแผนเที่ยวได้ง่ายขึ้น พร้อมแนะนำ รถบัสนําเที่ยว อุบลราชธานี สำหรับการเดินทาง
20 ที่เที่ยวในอุบลราชธานี ที่ต้องห้ามพลาด
1. สามพันโบก
“แกรนด์แคนยอนเมืองไทย” จุดเช็กอินที่โดดเด่นด้วยหินที่ถูกน้ำกัดเซาะจนเกิดเป็นหลุมบ่อรูปร่างแปลกตา สามพันโบกตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง อุบลราชธานี สวยงามที่สุดในช่วงน้ำลด (พฤศจิกายน–เมษายน) ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การถ่ายรูปคือเช้าตรู่หรือเย็น เพราะจะได้แสงที่งดงามและไม่ร้อนจนเกินไป
รายละเอียด: สามพันโบกเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกิดจากการกัดเซาะของแม่น้ำโขงจนเกิดเป็นหลุมบ่อจำนวนมาก ลักษณะคล้าย “แกรนด์แคนยอน” ของเมืองไทย แต่ละหลุมมีรูปร่างที่แปลกตา เช่น หลุมรูปหัวใจและมิกกี้เมาส์
ที่ตั้ง: บ้านปากลา อ.โพธิ์ไทร
วิธีไป: ใช้ถนนทางหลวงหมายเลข 2050 ขับต่อมาที่ อ.โพธิ์ไทร เลี้ยวขวาไปยังสามพันโบก
ค่าเข้า: ไม่มีค่าเข้าชม
2. หาดชมดาว
ชายหาดริมแม่น้ำโขงที่เกิดขึ้นในช่วงฤดูแล้ง หาดชมดาวเป็นที่ที่คุณสามารถเดินเล่นบนชายหาดทรายละเอียด และมองเห็นวิวแม่น้ำโขงสุดลูกหูลูกตา ไฮไลต์อยู่ที่ “ช่องเขาขาด” ซึ่งเป็นจุดถ่ายรูปยอดนิยม
รายละเอียด: หาดทรายขนาดใหญ่ที่ปรากฏในช่วงน้ำลด ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง คุณจะเห็นทิวทัศน์ที่งดงามและพื้นที่เหมาะสำหรับการพักผ่อน
ที่ตั้ง: ต.นาตาล อ.นาตาล
วิธีไป: จากสามพันโบก ขับต่อมาประมาณ 20 กิโลเมตร มุ่งหน้าสู่หาดชมดาว
ค่าเข้า: ไม่มีค่าเข้าชม
3. ผาชะนะได
หากอยากเห็นพระอาทิตย์ขึ้นที่แรกของประเทศไทย ต้องมาที่ “ผาชะนะได” จุดชมวิวที่ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติผาแต้ม ชมทิวทัศน์ที่งดงามของแม่น้ำโขงและป่าเขียวขจี เหมาะสำหรับสายแคมป์ปิ้งที่อยากใกล้ชิดธรรมชาติ
รายละเอียด: จุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่แรกในประเทศไทย มองเห็นแม่น้ำโขงและทิวทัศน์เขียวขจีได้กว้างไกล
ที่ตั้ง: อุทยานแห่งชาติผาแต้ม อ.โขงเจียม
วิธีไป: ขับรถจากตัวเมืองอุบลราชธานี ใช้ถนนหลวงหมายเลข 2134
ค่าเข้า: ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท (ค่าธรรมเนียมอุทยาน)
4. อุทยานแห่งชาติผาแต้ม
สถานที่ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และความงดงามทางธรรมชาติ ไฮไลต์คือ “ภาพเขียนสีโบราณ” ที่มีอายุกว่า 3,000–4,000 ปี เป็นหลักฐานของวิถีชีวิตในอดีต
รายละเอียด: มีจุดเด่นคือ “ภาพเขียนสีโบราณ” อายุกว่า 3,000–4,000 ปี บอกเล่าเรื่องราววิถีชีวิตของมนุษย์ในอดีต
ที่ตั้ง: ต.ห้วยไผ่ อ.โขงเจียม
วิธีไป: ใช้ถนนหมายเลข 2134 เดินทางประมาณ 95 กิโลเมตรจากตัวเมือง
ค่าเข้า: ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท
5. วัดพระธาตุหนองบัว
วัดที่มีพระเจดีย์ศรีมหาโพธิ์ โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมสีทองและลวดลายที่วิจิตรบรรจง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสความสงบและศรัทธา
รายละเอียด: วัดเก่าแก่ที่มีพระเจดีย์ศรีมหาโพธิ์ สีทองอร่าม สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกถึงการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
ที่ตั้ง: อ.เมือง
วิธีไป: ตั้งอยู่ในเขตตัวเมือง สามารถใช้รถยนต์หรือมอเตอร์ไซค์เดินทางสะดวก
ค่าเข้า: ไม่มีค่าเข้าชม
6. แก่งสะพือ
สถานที่พักผ่อนริมแม่น้ำมูลที่ได้รับความนิยมในท้องถิ่น น้ำใสสะอาดและบรรยากาศร่มรื่น เหมาะสำหรับการพักผ่อนและปิกนิกกับครอบครัว
รายละเอียด: จุดพักผ่อนยอดนิยมริมแม่น้ำมูล มีหาดทรายและน้ำใสเหมาะแก่การพักผ่อนในวันหยุด
ที่ตั้ง: อ.พิบูลมังสาหาร
วิธีไป: ใช้ทางหลวงหมายเลข 217 เดินทางประมาณ 45 กิโลเมตรจากตัวเมือง
ค่าเข้า: ไม่มีค่าใช้จ่าย
7. โขงเจียม
สถานที่พักผ่อนริมแม่น้ำมูลที่ได้รับความนิยมในท้องถิ่น น้ำใสสะอาดและบรรยากาศร่มรื่น เหมาะสำหรับการพักผ่อนและปิกนิกกับครอบครัว
รายละเอียด: เมืองเล็กริมแม่น้ำโขง จุดที่น้ำจากแม่น้ำสองสี (โขงและมูล) มาบรรจบกัน บรรยากาศเงียบสงบ เหมาะกับการพักผ่อน
ที่ตั้ง: อ.โขงเจียม
วิธีไป: ใช้ถนนหมายเลข 2222 จากตัวเมืองประมาณ 75 กิโลเมตร
ค่าเข้า: ไม่มีค่าใช้จ่าย
8. แม่น้ำสองสี
ปรากฏการณ์ธรรมชาติที่น้ำจากแม่น้ำโขงและน้ำจากแม่น้ำมูลไหลมาบรรจบกันแต่ไม่ผสมกัน เกิดเป็นสองสีที่ชัดเจน สถานที่นี้มีวิวที่น่าประทับใจและเป็นเอกลักษณ์
รายละเอียด: จุดที่น้ำจากแม่น้ำโขงและมูลไหลมาบรรจบกันเป็นสีที่แตกต่างชัดเจน
ที่ตั้ง: อ.โขงเจียม
วิธีไป: ใกล้กับวัดโขงเจียม เดินทางได้ง่ายด้วยรถยนต์
ค่าเข้า: ไม่มีค่าใช้จ่าย
9. หินชมนภา
จุดชมวิวที่สามารถมองเห็นแม่น้ำโขงและธรรมชาติรอบข้างแบบพาโนรามา ตั้งอยู่ในเขตโขงเจียม เหมาะสำหรับการมาถ่ายรูปและพักผ่อน
รายละเอียด: จุดชมวิวริมแม่น้ำโขงที่มองเห็นทิวทัศน์ได้แบบพาโนรามา
ที่ตั้ง: อ.โขงเจียม
วิธีไป: ใช้ถนนหมายเลข 2112 ใกล้กับจุดชมแม่น้ำสองสี
ค่าเข้า: ไม่มีค่าใช้จ่าย
10. แก่งหินงาม
แก่งหินที่เรียงรายตามธรรมชาติในแม่น้ำมูล เหมาะสำหรับการล่องเรือและเดินชมธรรมชาติในบรรยากาศเงียบสงบ
รายละเอียด: กลุ่มหินที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติเรียงรายริมแม่น้ำมูล สวยงามในช่วงฤดูแล้ง
ที่ตั้ง: อ.พิบูลมังสาหาร
วิธีไป: ใช้ถนนหลวงหมายเลข 217
ค่าเข้า: ไม่มีค่าใช้จ่าย
11. วัดหนองป่าพง
วัดที่เน้นความสงบและเรียบง่าย เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการปฏิบัติธรรมและพักใจจากความวุ่นวายในชีวิตประจำวัน
รายละเอียด: วัดที่เน้นความสงบเหมาะสำหรับการปฏิบัติธรรม เป็นสถานที่สำคัญในวงการพระพุทธศาสนา
ที่ตั้ง: ต.โนนผึ้ง อ.วารินชำราบ
วิธีไป: ห่างจากตัวเมืองประมาณ 8 กิโลเมตร ใช้รถยนต์ส่วนตัว
ค่าเข้า: ไม่มีค่าใช้จ่าย
12. ตลาดอินโดจีน
ตลาดที่เต็มไปด้วยสินค้าหลากหลายจากประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ของฝาก ของใช้ และอาหารพื้นเมือง บรรยากาศคึกคักและเป็นกันเอง
รายละเอียด: แหล่งช้อปปิ้งสินค้าอินโดจีน เช่น ผ้าไหม ของฝาก อาหารท้องถิ่น
ที่ตั้ง: อ.เมือง
วิธีไป: ตั้งอยู่ในตัวเมือง สามารถเดินเท้าหรือใช้รถจักรยานยนต์
ค่าเข้า: ไม่มีค่าใช้จ่าย
13. น้ำตกแสงจันทร์ (น้ำตกลงรู)
น้ำตกสุดแปลกที่น้ำไหลผ่านช่องหินเป็นรูตรงกลาง ทำให้เกิดภาพที่สวยงามและน่าตื่นตาตื่นใจ
รายละเอียด: น้ำตกที่น้ำไหลผ่านรูตรงกลางหิน โดดเด่นและน่าตื่นตาตื่นใจ
ที่ตั้ง: อ.โขงเจียม
วิธีไป: ใช้ถนนหมายเลข 2222
ค่าเข้า: ไม่มีค่าใช้จ่าย
14. ถ้ำเหวสินธุ์ชัย
สถานที่ที่เหมาะสำหรับคนชอบผจญภัย ถ้ำเหวสินธุ์ชัยมีความลึกและเงียบสงบ เหมาะแก่การสำรวจและสัมผัสธรรมชาติแบบใกล้ชิด
รายละเอียด: ถ้ำลึกที่เหมาะสำหรับนักผจญภัย ชมความงามของธรรมชาติภายในถ้ำ
ที่ตั้ง: อ.นาจะหลวย
วิธีไป: ใช้ถนนหมายเลข 217
ค่าเข้า: ไม่มีค่าใช้จ่าย
15. เขื่อนสิรินธร
เขื่อนขนาดใหญ่ที่นอกจากจะให้พลังงานแล้ว ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีวิวทิวทัศน์สวยงาม เหมาะสำหรับการเดินเล่นริมเขื่อน
รายละเอียด: เขื่อนผลิตไฟฟ้าพลังน้ำ พร้อมบรรยากาศเงียบสงบและวิวสวยงาม
ที่ตั้ง: อ.สิรินธร
วิธีไป: ใช้ถนนหมายเลข 217 ห่างจากตัวเมืองประมาณ 70 กิโลเมตร
ค่าเข้า: ไม่มีค่าใช้จ่าย
16. พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติอุบลราชธานี
สถานที่รวบรวมโบราณวัตถุและประวัติศาสตร์ของจังหวัดอุบลราชธานี มีข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับวิถีชีวิตของคนในอดีต
รายละเอียด: แหล่งเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมในจังหวัด
ที่ตั้ง: อ.เมือง
วิธีไป: ตั้งอยู่ในเขตเมือง เดินทางสะดวก
ค่าเข้า: ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท
17. หอไตรกลางน้ำ
สถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ สร้างขึ้นกลางน้ำเพื่อเก็บพระไตรปิฎก ถือเป็นจุดถ่ายรูปที่สวยงามและไม่ควรพลาด
รายละเอียด: อาคารไม้กลางน้ำที่สร้างขึ้นเพื่อเก็บพระไตรปิฎก
ที่ตั้ง: วัดทุ่งศรีเมือง อ.เมือง
วิธีไป: ตั้งอยู่ในตัวเมือง
ค่าเข้า: ไม่มีค่าใช้จ่าย
18. วัดทุ่งศรีเมือง
วัดเก่าแก่ที่มีหอพระไตรปิฎกสร้างด้วยไม้ทั้งหลัง โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบอีสานที่หาดูได้ยาก
รายละเอียด: วัดที่มีสถาปัตยกรรมแบบอีสานดั้งเดิม หาชมได้ยาก
ที่ตั้ง: อ.เมือง
วิธีไป: ใช้ถนนในเขตตัวเมือง
ค่าเข้า: ไม่มีค่าใช้จ่าย
19. ถนนคนเดินอุบล
สถานที่ที่เต็มไปด้วยอาหารพื้นเมืองและสินค้าหัตถกรรม ที่นี่คุณสามารถชิมอาหารอร่อยและช้อปปิ้งของฝากไปพร้อมกัน
รายละเอียด: สถานที่ชิมอาหารและช้อปปิ้งสินค้าพื้นเมือง
ที่ตั้ง: อ.เมือง
วิธีไป: ตั้งอยู่ในเขตตัวเมือง
ค่าเข้า: ไม่มีค่าใช้จ่าย
20. หมู่บ้านทำเทียนพรรษา
เรียนรู้กระบวนการทำเทียนพรรษา งานฝีมือที่เป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมกับเลือกซื้อเทียนพรรษาสวย ๆ กลับไปเป็นของฝาก
รายละเอียด: ชมการทำเทียนพรรษาแบบดั้งเดิม และซื้อเป็นของฝาก
ที่ตั้ง: อ.เมือง
วิธีไป: อยู่ใกล้ตัวเมือง เดินทางง่าย
ค่าเข้า: ไม่มีค่าใช้จ่าย
รถบัสนําเที่ยว อุบลราชธานี ตัวเลือกสำหรับการเดินทางที่สะดวกสบาย
สำหรับผู้ที่วางแผนเดินทางเที่ยวอุบลราชธานีแบบกลุ่มใหญ่ รถบัสนําเที่ยว อุบลราชธานี ถือเป็นตัวเลือกที่สะดวกและตอบโจทย์มากที่สุด เพราะไม่เพียงแต่ช่วยลดภาระการขับรถเอง ยังมีพื้นที่กว้างขวางที่สามารถรองรับผู้โดยสารได้มากถึง 40-50 คน เหมาะสำหรับกลุ่มเพื่อน ครอบครัวใหญ่ หรือทริปองค์กรที่ต้องการความสะดวกสบายและการเดินทางที่ปลอดภัย
บริษัท รถบัสนําเที่ยว อุบลราชธานี มีให้เลือกหลากหลายพร้อมบริการคนขับมืออาชีพที่เชี่ยวชาญเส้นทางในพื้นที่ สามารถพาคุณเที่ยวทุกจุดเช็กอินที่แนะนำในบทความนี้ได้อย่างครบถ้วน นอกจากนี้ รถบัสนำเที่ยวบางคันยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เช่น เครื่องปรับอากาศ ทีวี และที่นั่งปรับเอนได้ ช่วยให้การเดินทางของคุณผ่อนคลายตลอดเส้นทาง
ดังนั้น หากคุณกำลังมองหาวิธีเที่ยวอุบลราชธานีแบบเป็นกลุ่มที่สะดวกและคุ้มค่า รถบัสนําเที่ยว อุบลราชธานี ก็เป็นอีกตัวเลือกที่ไม่ควรพลาด
Leave a Reply